บริเวณที่พบ : สวนหิน
ลักษณะพิเศษของพืช : พืชประดับแต่งทรง
ลักษณะทั่วไป
ต้น : ไม้ต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 15 เมตร เปลือกต้นสีดำแตกเป็นสะเก็ดหน้า ๆ
ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกัน รูปไข่กลับหรือรูปป้อม ๆ กว้าง 2.5 - 7 ซม. ยาว 3 - 12 ซม. โคนใบสอบเป็นรูปลิ่ม ปลายใบโค้งมน
ป้านเว้าเข้าใบเกลี้ยงด้านล่าง เมื่อใยยังอ่อนอยู่มีขนบ้าง เส้นใบมี 6 - 8 คู่ เห็นได้ชัดทางด้านล่าง เส้นกลางใบสีแดงเรื่อ ๆ เมื่อใบแห้ง
ดอก : ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่คนละต้น ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อเล็ก ๆ ตามง่ามใบ ช่อหนึ่ง ๆ มีประมาณ 3 ดอก มีขนนุ่ม
กลีบรองกลีบดอกและกลีบดอกมี 4 กลีบ กลีบดอกยาว 8 - 12 มม. เชื่อมติดกันเห็นรูปเหยือกน้ำหรือรูปป้อม ๆ ปลายแยกเป็นแฉกเล็ก ๆ
ส่วนดอกเพศเมีย ออกดอกเดี่ยวตามง่ามใบ กลีบรองดอกและกลีบดอกเหมือนดอกเพศผู้แต่ใหญ่กว่า
ผล : มีลักษณะกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 - 2.5 ซม. เมื่อผลอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง ขนร่วงง่าย โคนและปลายผลมักบุ๋ม
การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเนื่องจากโตช้า, การตอนกิ่ง หรือใช้วิธีขุดล้อมมาจากธรรมชาติก็ได้
ประโยชน์ :
1. นิยมปลูกเป็นไม้ประดับหรือทำเป็นตะโกดัด
2. สรรพคุณทางสมุนไพร ต้น (เปลือกและเนื้อไม้) ต้มน้ำดื่ม เป็นยาบำรุงและแก้โรคกามตายด้าน , ผล รสฝาด ใช้แก้อาการท้องร่วง ตกเลือด ขับพยาธิ
3. ใช้เป็นสีย้อมผ้า